วันจันทร์ที่ 2 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2552

mY fAvOrItE StUfF...is...CHOCOLATE^*^




สิ่งที่เราชอบก็มีเยอะแยะมากมายอ่านะ คิดอยู่ตั้งนานว่าจะเขียนเกี่ยวกับอะไรดี จริงๆก็


ชอบถ่ายรูปมาก ชอบเป็นทั้งคนถ่ายและถูกถ่าย ^^ รูปในนี้ส่วนใหญ่ก็ถ่ายเองแหละ ยกเว้น


รูปที่มีเราอยู่ในนั้น 555 แต่เห็นคนทำเรื่องนี้แล้ว เลยไม่เอาดีกว่า มองซ้ายมองขวา ก็เห็นแต่


ช็อกโกแลต ไม่รู้ทำไมวันเกิดปีนี้ทุกคนพร้อมใจกันให้ช็อกโกแลต ทั้ง


chocolate นานาชนิดจากสวิส Lindt เค้กไอติม เค้กช็อกฯหน้านิ่ม หรือแม้แต่หนังสือ


ทำเบเกอรี่ที่เต็มไปด้วยช็อกโกแลต!! แล้วเมื่อไหร่สิวชั้นจะหายล่ะเนี่ย แต่ไม่เป็นไรเรื่องกิน


มาก่อน ค่อยสวยทีหลัง55+ เมื่อก่อนเราก็เฉยๆกับchocolateอ่ะนะ จนได้ไปAFS ที่


Switzerland ดินแดนแห่ง chocolate กินมันแทบทุกวัน ตกหลุมรักเข้าไปเต็มๆ 55+ แต่ไม่


อ้วนอ่ะ สิวก็ไม่ขึ้น คนที่นู่นก็กินกันเป็นชีวิตจิตใจ เป็นของหวานประจำชาติ555 ขนาด


กระต่ายที่บ้านโฮสยังชอบเลย ตอนแรกกะจะเก็บเปลือก+กล่องchocolateทุกชิ้นที่กินไป


กลับมาเป็นที่ระลึกว่า 1ปี กินไปแค่ไหน ไปๆมาๆ(เกินครึ่งปี) ไม่เอาดีกว่า ขืนเก็บกลับมา


มีหวังต้องซื้อกระเป๋าเดินทางเพิ่มอีกใบแหงๆ เลยเก็บเฉพาะบางอันที่ดูดี มีความหมายละกัน^^





ก่อนที่จะเล่าถึงchocolateสวิสต่อ เรามาทำความรู้จักchocolateให้มากขึ้นอีกนิดสสกันดีกว่า^+^.....

ช็อกโกแลตทำจากการหมัก คั่ว และบดอย่างละเอียดของเมล็ดโกโก้ซึ่งได้มาจากต้นโกโก้เขต


ร้อน (tropical cacao tree) ซึ่งมีต้นกำเนิด จากอเมริกากลางและเม็กซิโก ต้น โกโก้นั้น


ถูกค้นพบโดยชาวอินเดียนแดงและชาวอัซเตก แต่ในปัจจุบันได้


แพร่กระจายและ ปลูกไปทั่วเขตร้อน เมล็ดของต้นโกโก้นั้นมีรส


ฝาดที่เข้มข้น


ผลผลิตของเมล็ดโกโก้รู้จักกันในนาม "ช็อกโกแลต" หรือบางส่วนของโลกใน นาม"โกโก้"




ส่วนประวัติความเป็นมาคร่าวๆเนี่ย มันมีอยู่ว่า


ช็อกโกแลตถูกค้นพบมาตั้งแต่สองพันปีที่แล้ว


หลังสมัยพระนางคลีโอพัตราแห่งอียิปต์ ได้จาก


เมล็ดของต้นคาเคา (cacao) ในป่าร้อนชื้นของ


ทวีปอเมริกา แปลว่า "อาหารแห่งทวยเทพ"


มายา เป็นชนชาติแรกที่มีหลักฐานชัดเจนว่าได้ค้นพบความลับของต้นคาเคา โดยนำต้นคาเคา
มาจากป่าฝนและปลูกไว้ที่สวนหลังบ้าน พอออกฝักก็เก็บเอาเมล็ดมาหมักบ้าง คั่วบ้าง และยัง
บดเป็นเนื้อเหนียว อยากชงเป็นเครื่องดื่มก็เอามาผสมน้ำ โรยพริกไทย แป้งข้าวโพด ก็จะได้
เครื่องดื่มช็อกโกแลตรสซาบซ่ามีฟองฟ่อง
ต่อมาชาวแอซเทคครอบครองพื้นที่ส่วนใหญ่ของอารย
ธรรมเมโสอเมริกา เมืองหลวงตั้งอยู่ที่ปัจจุบันเรียกว่า
เม็กซิโก ซิตี้ ชาวแอซเทคได้ซื้อขาย เมล็ดคาเคากับชาว
มายาและชนชาติอื่น และยังเรียกเก็บค่าบรรณาการจาก
พลเมืองของตนและเชลยเป็นเมล็ดคาเคา ใช้แทนค่าเงิน
ชาวแอซเทคนิยมดื่มช็อกโกแลตขม
เช่นเดียวกับชาวมายา โดยปรุงรสให้ซู่ซ่าขึ้นด้วยเครื่องเทศ
ชาวเมโสอเมริกาสมัยนั้นยังไม่มีใครปลูกอ้อยก็เลยไม่มีใครใส่น้ำตาลกัน เล่ากันว่า คนมายายุค
คลาสสิกชอบดื่มช็อกโกแลตกันในวาระพิเศษ ขณะที่บรรดาเชื้อพระวงศ์จะนิยมดื่มกันมาก
ส่วนชาวแอซเทค บรรดาผู้ปกครองระดับสูง พระ ทหารยศ
สูง และพ่อค้าที่มีหน้ามีตาเท่านั้นที่มีสิทธิลิ้มรสเครื่องดื่ม
ศักดิ์สิทธิ์นี้ ช็อกโกแลตมีบทบาทสำคัญในพิธีของราชวงศ์
และศาสนา เพราะใช้เมล็ดคาเคา เป็นเครื่องสักการะเทพเจ้า
สำหรับที่มาของชื่อช็อกโกแลตนั้นยังไม่มีใครอธิบายได้แจ่มชัด แต่
มีความเป็นไปได้สองทาง ทางแรกเป็นคำที่ผันมาจากคำว่า
"ช็อคโกลัจ" ในภาษามายา ซึ่งหมายถึง มาดื่มช็อกโกแลตด้วยกัน อีกทางหนึ่งอธิบายว่าน่าจะมาจากภาษา
มายาเช่นกัน คือ " chocol" แปลว่า ร้อน ผสมกับคำว่า "atl" ของแอซเทคที่แปลว่า น้ำ พอมารวมกันจึงกลาย
เป็นคำว่า chocolatl และมาเป็น chocolate ในที่สุด....



**credit to th.wikipedia.org/wiki/Chocolate ค่ะ^^







เอาล่ะ เล่าต่อๆ chocolate สวิสที่อร่อย..ก็..เกือบทุกยี่ห้อล่ะนะ 55+ เอาเป็นว่าถ้าคนไทย


รู้จักดี ก็ต้องนี่เลย Toblerone จริงๆมันไม่ได้อร่อยที่สุดหรอกนะ แค่แข็งแล้วก็ละลายยาก



เลยส่งมาขายเยอะ (อย่างนี้นี่เอง555)
ส่วนที่คนสวิสชอบกันมากที่สุด คงหนีไม่พ้น



Lindt ซึ่งเราเคยลงรูปไปในblogก่อนหน้านี้แล้ว


เราก็รู้สึกว่าLindtเนี่ย สุดยอด!จริง^^ กินแล้ว มี

ความสุข ทุกครั้งที่มันละลายใน ปาก55+

ชอบแบบที่เป็นลูกกลมๆ มี หลายรส ก็ชอบทุกรสอ่านะ ฮิๆ แต่ที่เลิฟมากๆ ไม่ว่าจะยี่ห้อไหนคง

เป็นdark กินแล้วรู้สึกว่าชั้นจะไม่มีวันอ้วนแน่ๆ555 (รึป่าว)






ส่วนที่ลุงถืออยู่นี้เป็นเซตคลาสสิคของLindt มีหลายแบบมากตั้งแต่แบบ

ผสมกับถั่ว คาราเมล นูกัต ยันเหล้าเชอร์รี่ รับประกันความอร่อยค่า^^





น้องหมูพวกนี้ เป็นช็อกโกแลตช่วงปีใหม่อ่า ปีนั้นปีหมูเค้าเลยทำ

ให้เข้ากะเทศกาลซะเลย! น่ารักดี^^



นี่ก็ที่พิพิธภัณฑ์ช็อกโกแลต ชอบมั่กๆ แสงสวย chocolateก็เริ่ด ดูครีเอทดีอ่า สวยมากมาย^+^ ประทับใจๆ




เค้าว่ากันว่าช็อกโกแลตช่วยกระตุ้นการหลั่งสารเอ็นดอร์ฟิน ซึ่งช่วยลดความเจ็บปวดและรู้สึก


ผ่อนคลาย ทำให้มีความสุขขึ้นมาได้ แสดงว่าที่เรามักจะส่งความสุขให้กันด้วยช็อกโกแลตก็


เพราะอย่างงี้นี่เองหรอ(มั้ง55+)^^






เราก็ไม่รู้เหมือนกันนะว่าทำไมถึงชอบช็อกโกแลต รู้แค่กินทีไร มีความสุขทู้กที เพราะเอ็นดอร์


ฟินแหงๆเลย555 อีกอย่างชอบการสร้างสรรค์ของคนทำอ่า เอานู่นผสมนี่ เลยมีช็อกโกแลตรส


ชาติและหน้าตาแปลกใหม่อยู่เรื่อยๆ ยิ่งช่วงสอบ จะเป็นช่วงที่เรากินช็อกโกแลตเยอะมาก รู้สึก


ทั้งกระปรี้กระเปร่าและมีความสุข มีกำลังใจอ่านหนังสือขึ้นมาทันที^_^ เพื่อนๆลองดูได้นะ


(หรือว่าก็กินกันอยู่แล้ว55+) มาเป็นสาวกchocolateกานนนนน...


วันอังคารที่ 6 มกราคม พ.ศ. 2552

start...The New Year


ปีใหม่แล้วมาเริ่มต้นสิ่งดีๆกันเถอะ.....

จิงๆ 2008 ก็ใช่ว่าจาเร็วนะ เราว่าคงเปนเพราะ เป็นปีที่ เยอะ มากกว่า มีอาไรให้ทำมากมาย เป็นปีแห่งการเปลี่ยนแปลง โดยเฉพาะเด็ก Ent อย่างพวกเรา ทีแรกคิดว่า Ent เสร็จ ก็คงสบาย ที่ไหนได้ หนักกว่ามาก

เป็นปีที่เปลี่ยนทั้งชีวิตและความคิดเลย ได้เจออาไรแปลกๆใหม่ๆทั้งดีและไม่ดีที่ไม่เคยคิดว่าชีวิตนี้จะได้เจอ 555 แต่ทุกอย่างก็เปนประสบการณ์อ่านะ

มีคนเคยบอกว่า Experience is what u gain when u dnt get what u want! คิดได้ไงโดนมั่กๆ

อะไรดีๆ ในปีเก่าก็ให้เก็บไว้ ส่วนอะไรที่ไม่ดี ก็มองซะว่ามันเป็นประสบการณ์ และ จะคอยเป็นภูมิต้านทานให้เราเวลาเจอเรื่องแย่ๆอีก แต่ถ้ามันแย่จนรับไม่ไหวก็โยนมันทิ้งซะ

ปล่อยวางซะบ้าง แล้วอะไรๆก็จะดีขึ้น(จิงๆนะ)

เลิกคิด เลิกสนใจ อย่าให้มันมีอิทธิพลเหนือเรา อย่าไปเสียเวลากับอะไรไร้ค่าอย่างนั้นเลย มาทำสิ่งที่อยากทำดีกว่า

ชีวิตไม่แน่นอน ใช้ให้คุ้มค่า be happy n' just live ur LIFE!! 55++ ^*^

ปีใหม่ๆๆ




หลังจากปิดปีใหม่อันแสนสุข 5 วัน

อาไรที่อยากทำก็ไม่ได้ทำซักที เช่นอยากนอนมากกว่านี้55+

ไปโน่นไปนี่ตลอด กินเยอะมากกก กินเค้กเป็นว่าเล่นเลย chocolate ด้วย จนไม่กล้าชั่งน้ำหนักอ่า





ก็ไปไหว้พระ(ตามสไตล์บ้านเรา) แล้วไปดูหิ่งห้อยที่แม่กลองกัน เยอะกว่าอัมพวามากมายอ่า

เป็นต้นคริสต์มาสเลย โรแมนติ๊ค โรแมนติค แต่ยายบอกอย่าเวอร์ไป เด็กสมัยนี้เชย เห็นแค่นี้ทำเปนตื่นเต้น

สมัยยายนะ เกาะตามตัวยังเฉยๆเลย 55+

เราผิดมั๊ยเนี่ย ก็หนูเกิดไม่ทันนี่นา

เสียดายกล้องธรรมดาถ่ายไม่ติด

เก็บเป็นความทรงจำดีๆแทนละกัน^^





วันจันทร์ที่ 5 มกราคม พ.ศ. 2552

M*a*d*a*g*a*s*c*a*r//2





ไปดูมาหนุกมั่กๆ ขนาดไม่ชอบสัตว์ยังรู้สึกว่าน่ารักเลย^^




















ปีที่แล้วเป็นปีแห่ง Auntie Anne's กะ Baskin Robbins จิงๆ เพราะเรากะเพื่อนมีบัตร1แถม1 กินจนเบื่ออ่า จากร้านโปรดสุดๆ กลายเป็นอาไรที่เห็นแล้วพะอืดพะอมไปเลย ขอพักไปอีกนาน ลงรูปส่งท้ายซะหน่อย55+


แล้วอีกอย่างช่วงนี้เป็นไรไม่รู้ ได้กลิ่น(แกง)กะหรี่ทีไรน้ำลายไหลทุกที











ขนาดกินข้าวไก่pepperยังเพิ่มผงกะหรี่อีกอ่า เผ็ดร้อนไปตามๆกัน55+ อร่อยดี^^



















แต่ที่เด็ดสุด นี่เลย ต้นคริสต์มาสนี้ต้นนี้ เป็นต้นโปรดแห่งปี555 นัดกันมารึป่าวไม่รู้

คนอื่นเลยบังเอิญกันplainซะง้าน ชอบๆๆๆๆจังเลย























ปีนี้ทั้งParagon แล้วก็ Central World จัดคล้ายปีที่แล้วเลย
Paragonนี่ต้นคริสต์มาสก็ต้นเดิม กวางก็ตัวเดิม แต่คนถ่ายเปลี่ยนไป55+
จะว่าไป Central World ก็เปลี่ยนหลายอย่าง แต่ชอบปีที่แล้วมากกว่า^+^
แต่ที่แรงสุดๆ ต้องนี่เลย ต้นคริสต์มาสสีชมพูหน้าHardrock อ่า
ได้ข่าวว่าของจุฬา(หรอ) ใครรู้ช่วยบอกที

วันพุธที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2551

Merry Christmas & Happy New Year



F r o h e~W e i h n a c h t e n*
&
*e s~g u e t s~N o i s !



Das neues Jahr ist langsam kommen . . . . . . . . .
ประเดิมblogแรก ให้เข้ากะเทศกาลซะหน่อย^!^ รู้สึกคริสต์มาสปีนี้ผ่านมา...แล้วก็ผ่านไป...
เร็วมั่กๆ รู้ตัวอีกทีก็31 ธันวาแล้ว (ทีแรกแอบงงว่าทำไมเพื่อนๆรีบส่งเมสเสจ new year กันเร็วจัง
55+) ทั้งๆที่ปีก่อนๆก็เป็นช่วงสอบเหมือนกันนะ แต่สงสัยปีนี้จาสอบเยอะ + เรียนหนัก + ยุ่งๆ กะ
งาน(มากมาย)ไปหน่อย เลยรู้สึกว่าเวลาผ่านไปเร็ว ความจริงบรรยากาศดีๆอย่างนี้ น่าจะได้พักผ่อน แล้วก็
ฉลองกานเนอะ คิดถึงธันวาปีที่แล้วอ่ะ ช่วง“รักแห่งสยาม” fever(ฮิๆๆ พิชชี่สุดน่ารัก^^) ประทับใจ
สุดๆเลยยยย …เสียดายเซ็นเตอร์พอยท์จัง-_-